วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เปิดเหตุผลต้องดู It's Okay to Not Be Okay ซีรีส์เยียวยาหัวใจที่ได้มากกว่าความฟิน

ผลงานคัมแบ็คของคิมซูฮยอน



It’s Okay to Not Be Okay นับว่าเป็นซีรีส์คัมแบ็คอย่างเป็นทางการหลังจาก The Producers ในปี 2015 สำหรับคิมซูฮยอน เขาเป็นนักแสดงที่มีแฟนๆ ติดตามมากที่สุดคนหนึ่ง ดูได้จากการไปแสดงรับเชิญให้ Hotel del Luna และ Crash Landing on You ซีนที่เขาปรากฏตัวก็เรียกได้ว่าขโมยซีนสุดๆ

ส่วนฝีมือการแสดงไม่ต้องพูดถึง การันตีด้วยรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ซีรีส์ Moon Embracing the Sun จากเวทีประกาศรางวัล Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 48 และอีกสองรางวัลจากเวที Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 50 สาขารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดนิยม จากภาพยนตร์ Secretly, Greatly ที่เขารับบทสายลับเกาหลีเหนือซึ่งแฝงตัวมาอยู่ในเกาหลีใต้ ตรงกับบทรับเชิญในซีรีส์ Crash Landing on You

ซอเยจี นักแสดงหญิงที่จะต้องจับตามอง



ซอเยจีอาจจะยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ฝีมือการแสดงของเธอต้องบอกว่าเฉียบ โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านสายตาบทโกมุนยอง ซีรีส์ It’s Okay to Not Be Okay ซอเยจีทำการบ้านหนักมาก เพราะเป็นคาแรกเตอร์ของนางเอกที่ไม่เหมือนซีรีส์เรื่องไหนๆ

เปิดตัวมาด้วยการเป็นนักเขียนวรรณกรรมเด็กที่ไม่สนใจความรู้สึกใคร มีบุคลิกภาพผิดปกติชนิดต่อต้านสังคม ซึ่งทำให้ในช่วงแรกของซีรีส์ หลายคนอาจไม่ชอบใจการกระทำต่างๆ ของโกมุนยองนัก แต่ซีรีส์จะทำให้เห็นว่าตัวเธอเองจะได้รับการเยียวยาและมองเห็นบาดแผลในจิตใจที่เป็นต้นเหตุของพฤติกรรมแย่ๆ ทั้งหลายได้อย่างไร

ซีรีส์เกาหลีที่ผสมผสานครบทุกอารมณ์

It’s Okay to Not Be Okay เปิดตัวด้วยการเป็นซีรีส์โรแมนติกดราม่าแฟนตาซี แต่ในอีพี 1-2 เรากลับเห็นการผสมผสานโทนเรื่องที่มีปริศนาคดีฆาตกรรมเข้ามา จากการเสียชีวิตของแม่ ที่มุนซังแทเป็นคนเห็นเหตุการณ์แต่กลับบอกเล่าออกมาไม่ได้ ซึ่งความหลากหลายของซีรีส์ทำออกมาได้ลงตัว ทั้งยังผนวกเอาประเด็นทางจิตวิทยามาใช้ประกอบได้อย่างน่าสนใจ

ส่วนเส้นเรื่องโรแมนติกดราม่าระหว่างมุนคังแท และโกมุนยอง ก็เต็มไปด้วยซีนชวนจิกหมอน ที่มีการมองลึกลงไปในดวงตาหลายต่อหลายครั้ง ทำให้คิมซูฮยอนและซอเยจี กลายเป็นคู่เคมีนักแสดงที่แฟนซีรีส์ให้ความสนใจในทันที
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวอย่างหนังใหม่ Blood Quantum คนคลั่งขอปะทะซอมบี้ 9 ก.ค. นี้

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ตัวอย่างหนังใหม่ Blood Quantum คนคลั่งขอปะทะซอมบี้ 9 ก.ค. นี้

เมื่อวิกฤตไวรัสปริศนา เปลี่ยนคนทั้งโลกให้กลายเป็นซอมบี้ ทางรอดเดียวของมนุษย์คือหยิบอาวุธแล้วซัดกับพวกมัน ถึงเวลาฝ่าวิกฤตท้าความตายสยบฝูงซอมบี้โหยกระหายของเหล่านักรบเดนตายสุดคลั่ง Blood Quantum คนคลั่งซัดซอมบี้

ภาพยนตร์แอคชั่น-ซอมบี้สุดระทึกที่จะพาผู้ชมลุ้นไปกับทุกวินาทีกับการเอาชีวิตรอดของมวลมนุษยชาติ ในวันที่การแพร่ระบาดของไวรัสได้เปลี่ยนคนทั้งโลกให้กระหายเลือด


Blood Quantum คนคลั่งซัดซอมบี้ บอกเล่าเรื่องราวของโลกหลังจากต้องเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา เมื่อเชื้อไวรัสปริศนาที่เปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นซอมบี้ได้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก ประเทศและชุมชนต่างๆ ต้องปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด นี่คือเรื่องราวของชนเผ่าอินเดียนแดงกลุ่มหนึ่งที่มีภูมิคุ้มกันไวรัสเหนือคนธรรมดา

เทรย์เลอร์ (รับบทโดย ไมเคิล เกรย์ยาร์) นายอำเภอของชนเผ่ามิกแมค จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องชุมชนของพวกเขาให้รอดพ้นจากมหันตภัยครั้งนี้ แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อผู้รอดชีวิตกลุ่มอื่นได้เดินทางมาหลบภัยในแคมป์ของเผ่า เขาจึงต้องเลือกระหว่างความปลอดภัยของทุกคนในเผ่า กับการเปิดโอกาสให้ผู้อพยพเข้ามาแล้วเสี่ยงกับกับการสูญพันธุ์ของเผ่า ซึ่งอาจจะหมายถึงการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติ


ด้าน เจฟฟ์ บาร์นาบี ผู้กำกับชาวอินเดียนแดงได้ถ่ายทอดประสบการณ์จริงที่พวกเขาต้องเผชิญผ่านภาพยนตร์ ทั้งแนวคิดเรื่องการปิดกั้นชายแดน การเกลียดกลัวคนต่างชาติ ความหวาดระแวง และการไม่ยอมรับความจริง หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับผลกระทบทางสังคมว่าโรคระบาดส่งผลกับประชาชนอย่างไร มันทำให้พวกเขาหวาดระแวง เกลียดกลัวคนต่างเชื้อชาติ

ผู้กำกับกล่าว มันเหมือนกับว่าคุณมองเห็นอะไรในปัจจุบัน ทุกคนต่างปิดกั้นชายแดน กลายเป็นคนหวาดกลัวและหวาดระแวงซึ่งกันและกัน หนังนำเสนอว่าคนพื้นเมืองได้รับรู้ล่วงหน้าว่าคนที่ไม่ใช่คนพื้นเมืองมีอาณุภาพทำลายล้าง และเกิดการถกเถียงในชุมชนว่าจะช่วยเหลือคนที่ไม่ใช่คนพื้นเมืองหรือปกป้องตัวเองก่อน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

"เล่ห์เกมรัก" เตรียมออกอากาศ ไทย-จีน พร้อมกัน 2 ประเทศ